บันทึกการเข้าเรียน
ครั้งที่ 9
วันอังคาร
ที่ 31 ธันวาคม
2556 ( กลุ่ม
101 )
วิชา
การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ
** ไม่มีการเรียนการสอน
เนื่องจาก วันหยุดปีใหม่
เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
- เดินงุ่มง่าม ชนและสะดุดวัตถุ
- ไม่สนใจในสิ่งที่ต้องการใช้สายตา เช่นการเล่นช่อนหา
- มองเห็นสีผิดไปจากปกติ
- มักบ่นว่าปวดศรีษะ คลื่นใส้ ตาลาย คันตา
- ก้มศรีษะชิดกับงาน หรือของเล่นที่วางอยู่ตรงหน้า
- ขาดความสนใจ เหม่อลอย
- เพ่งตา หรี่ตา หรือปิดตาข้างหนึ่ง เมื่อใช้สายตา
- ตาและมือไม่สัมพันธ์กัน
- ลำบากในเรื่องการใช้บันได ใส่กระดุม ผูกเชือกรองเท้า อ่านและเขียนหนังสือ
- มีความลำบากในการจำ และแยกแยะสิ่งที่เป็นรูปร่างทางเรขาคณิต
1.1 แสดงความผิดปกติทางร่างกายเป็นที่น่าสังเกตอย่างเด่นชัด2. ลักษณะของเด็กบกพร่องทางสุขภาพ มีดังนี้
1.2 มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว
1.3 เท้าบิดผิดรูป
1.4 กระดูกสันหลังโค้งงอ
1.5 กลไกเคลื่อนไหวมีปัญหา
1.6 ท่าเดินคล้ายกรรไกร คือเข่าชิดปลายเท้าแยกจากกัน
1.7 สวมรองเท้าขาเหล็ก หรือเบรส
1.8 สูญเสียการควบคุมกลไกกล้ามเนื้อ หรือการประสานงานของร่างกาย
1.9 อาการเคลื่อนไหวสั่น หรือกระตุก
1.10 การทรงตัวของร่างกายทั้งสองข้างไม่สมดุลกัน
1.11 ความผิดปกตินั้นเกี่ยวกับหน้าที่การใช้งานตามปกติของระบบกระดูกกล้ามเนื้อ หรือข้อต่อ
1.12 เดินขากะเผลก หรืออืดอาดเชื่องช้า
2.1 มีอาการเหนื่อยง่ายเด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา
2.2 มีความผิดปกติจนไม่สามารถเข้าร่วมกลุ่มกับเพื่อนได้ หรือถูกหัวเราะเยาะ กลายเป็นตัวตลก
2.3 มักกระสับกระส่าย และอยู่ไม่สุข
2.4 ชักช้าและขาดความคล่องแคล่ว
2.5 มักหายใจขัดหลังการออกกำลังกาย
2.6 ไอเสียงแห้งบ่อย
2.7 มักบ่นเจ็บหน้าอกภายหลังการทำงานโดยใช้ร่างกาย
2.8 หน้าแดงง่าย มีสีเขียวจางบนแก้ม ริมฝีปากและ/หรือปลายนิ้ว
2.9 อาการไข้ต่ำๆเป็นหวัดบ่อยๆ
2.10 เกิดการชักอย่างกระทันหัน
2.11 ขาดสมาธิ หรือขาดความตั้งใจแน่วแน่
2.12 เป็นลมง่าย
2.13 บ่นว่าเจ็บภานในแขน ขาและ/หรือข้อต่อ
2.14 หิวและกระหายน้ำอย่างเกินกว่าเหตุ
2.15 ท่าเดินผิดปกติ
2.16 ศรีษะโคลงไปมา
2.17 ก้าวขึ้นบันไดด้วยความยากลำบาก
2.18 ท่ายืนผิดปกติ
2.19 บ่นว่าปวดหลัง
2.20 หกล้มบ่อย ๆ
1. เมื่ออยู่ในวัยทารกมักเงียบผิดธรรมชาติ ร้องไห้เบาๆและอ่อนแรงเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
2. ไม่อ้อแอ้ภายใน 10 เดือน
3. ไม่พูดภายใน 2 ขวบ
4. หลัง 3 ขวบแล้วภาษาพูดของเด็กก็ยังฟังเข้าใจยาก
5. ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้
6. หลัง 5 ขวบ เด็กยังคงใช้ภาษาที่เป็นประโยคไม่สมบูรณ์ในะระดับประถมศึกษา
7. มีปัญหาใรการสื่อความหมาย พูดตะกุกตะกัก
8. ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย
1.1 หยิบสิ่งที่ไม่ใช่อาหารเข้าปาก2. ลักษณะความผิดปกติทางความประพฤติที่เป็นปัญหา มีดังนี้
1.2 กินอาหารยาก หรือเบื่ออาหาร
1.3 กินจุ พร่ำเพรื่อ
1.4 อุจจาระ ปัสสาวะ รดเสื้อผ้า หรือที่นอน
1.5 ยังติดขวดนม หรือตุ๊กตา
1.6 พูดน้อยคำ
1.7 พูดไม่เป็นภาษาที่ฟังเข้าใจ
1.8 พูดไม่ชัด
1.9 พูดเสียงเบา ค่อยๆ
1.10 พูดตะกุกตะกัก
1.11 พูดหยาบคาย
1.12 ไม่ยอมพูดเฉพาะกับคนบางตน
1.13 ดูดนิ้ว
1.14 กัดเล็บ
1.15 ถอนผม
1.16 กัดฟัน
1.17 โขกศรีษะ
1.18 โยกตัว
1.19 เล่นอวัยวะเพศ
1.20 เรียบร้อยเกินไป
1.21 ติดคนมากเกินไป
1.22 เชื่อผู้อื่นมากเกินไป
1.23 สมยอม
1.24 ดื้อดึงผิดปกติ
1.25 ซนผิดปกติ
1.26 หงอยเหงาเศร้าซึม
1.27 ไม่ยอมช่วยตัวเองในสิ่งที่ทำได้
1.28 พัฒนาการต่างๆที่เคยทำได้ชงัก
1.29 ชอบพึ่งพาผู้อื่น
1.30 ไม่กล้าแสดงตนเอง หรือแสดงความคิดเห็น
1.31 ขาดความเชื่อมั่นหรือภาคภูมิใจในตนเอง
1.32 ท้อแท้สิ้นหวัง หมดกำลังใจ
1.33 อาย หลบ หวาดกลัว
1.34 แยกตัวเองไม่เข้ากลุ่ม
1.35 รู้สึกว่าตัวเองมีปมด้อย
1.36 เรียกร้องความสนใจ
1.37 ป้ายความผิดให้ผู้อื่น
1.38 ไม่ยอมรับผิด
1.39 กลัวโรงเรียน หรือไม่อยากมาโรงเรียน
1.40 อารมณ์หวั่นไหวง่ายต่อสิ่งเร้า การถูกวิจารณ์ หรือต่อการเปลี่ยนแปลง
1.41 ระแวง
1.42 ย้ำคิดย้ำทำ
1.43 ก้าวร้าว
1.44 ต่อต้านสังคมด้วยวิธีต่างๆ
1.45 ดื้อเงียบ เช่น ทำไม่รู้ไม่ชี้ ทำเป็นไม่ได้ยิน
1.46 มีความประพฤติ จิตใจ การแต่งกาย และบทบาทไม่สมกับเพศของตนเองตาม พัฒนาการของวัย
2.1 รู้วสึกว่าตัวเองมีปมเด่น3. ลักษณะความบกพร่องทางอารมณ์และอาการทางประสาท
2.2 ฝ่าฝืนไม่เครพกฎระเบียบของหมู่คณะ
2.3ละเมิดสิทธิผู้อื่น
2.4 ก้าวร้าวทั้งทางด้านการกระทำและวาจา
2.5 ดื้อดึง ต่อต้าน
2.6 มักก่อเหตุทะเลาะวิวาท
2.7 วางเขื่อน
2.8 ต้องการความยอมรับจากผู้อื่น
2.9 อดกลั้นต่อการถูกยั่วยุไม่ค่อยได้
2.10 ไม่ยอมรับผิด
2.11 ไม่เป็นมิตรนอกจากกับกลุ่มของพวกตน
2.12 อาฆาตพยาบาท
2.13 เกะกะระราน วางโต
2.14 ก่อให้เกิด หรือได้รับอุบัติเหตุบ่อยๆ
2.15 ลักเล็กขโมยน้อย
2.16 พูดปด
2.17 ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น
2.18 หนีการเรียน
2.19 หนีออกจากบ้าน
2.20 ใช้สารเสพย์ติดต่างๆ
2.21 ผลการเรียนอยู่มนเกณฑ์ไม่ดีหรือด้อยลง
3.1 ช่วงวิตกักกังวลจนเกินเหตุอยู่เสมอลักษณะของเด็กสมาธิสั้น
3.2 หวาดผวากลัวอย่างไม่สมเหตุสมผล
3.3 ตกใจง่าย
3.4 เคียดแค้นอาฆาต
3.5 หงุดหงิด ฉุนเฉียว ขี้โมโห บันดาลโทสะ
3.6 ขี้อิจฉาริษยา
3.7 เกี้ยวกราด มุทะลุ ก้าวร้าว
3.8 เจ้าอารมณ์
3.9 เจ้าน้ำตา
3.10 เศร้าซึม
3.11 หงอยเหงา
3.12 หมกมุ่นครุ่นคิด
3.13 ฝันกลางวัน
3.14 เหม่อลอย
3.15 ขาดความสนใจต่อสิ่งแวดล้อมหรือสิ่งเร้า
3.16 กลัวโรงเรียน
3.17 ความเอาใจใส่ และสมาธิต่อการเรียนลดลง
3.18 ผลการเรียนด้อยลง
3.19 ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง
3.20 ติดผู้ใดผู้หนึ่งมากเป็นพิเศษ
3.21 ตัดสินใจอะไรไม่ได้
3.22 ท้อแท้ หมดหวัง
3.23 พะวงถึงแต่ตัวเอง
3.24 ตีโพยตีพาย
3.25 ตื่นเต้นง่าย
3.26 เก็บกดซ่อนเร้นความรู้สึก
3.27 ติดอ่าง
3.28 ฝันร้าย
3.29 นอนละเมอ
3.30 หลับยาก
3.31 พูดเพ้อเจ้อ
3.32 ย้ำคิดย้ำทำ
3.33อ่อนเพลียไม่มีแรง
3.34 เหนื่อยง่าย
3.35 เบื่ออาหาร
3.36 กลืนไม่ลง
3.37 หายใจไม่เต็มอิ่ม
3.38 จุกในคอ
3.39 แน่นหน้าอก
3.40 ถอนหายใจ
3.41 กระตุกหรือเกร็งตามส่วนต่างๆของร่างกาย
3.42 ทำเสียงในจมูกหรือในคอซ้ำๆซากๆ
3.43 เวียนหัว หน้ามืด
3.44 ปวดหัว
3.45 ปวดท้อง
3.46 ปวดข้อ
3.47 ปวดแขน ขา
3.48 ชาตามส่วนต่างๆของร่างกาย
3.49 ดูดนิ้ว
3.50 กัดเล็บ
3.51 กัดริมฝีปาก
3.52 ถอนผม
3.53 แกะเกาจนอาจเป็นผื่นแผลตามตัว
3.54 ปัสสาวะ อุจจาระบ่อยหรือราด
1 ไม่รู้จักระมัดระวัง ตัวเอง ทำให้เกิดอุบัติเหตุ2. กลุ่มที่ไม่มีการซน แต่อยู่ไม่นิ่ง เป็นกลุ่มสมาธิที่บกพร่อง (Inattentive) มีลักษณะดังนี้
2 ลุกออกจากที่นั่งบ่อยๆ
3 ชอบวิ่ง หรือปืนป่าย อยู่ไม่นิ่ง กระสับกระส่าย วุ่นวาย
4 พูดคุยมากเกินไป
5 มีความลำบากในการเล่นคนเดียวเงียบ
6 ลุกลี้ลุกลน
7 อารมณ์ร้อน เปลี่ยนแปลงง่าย
8 ขาดความอดทนในการรอคอย
9 ชอบพูดขัดจังหวะ รบกวน ช่างฟ้อง
1มีปัญหาทางด้านกิจกรรมตามลำพังโดยเฉพาะคำสั่งยาวๆมีความลำบากในการฟัง คำสั่งให้ตลอดใจความเด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้
2 มีความลำบากในการทำงาน หรือเล่นกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งให้สำเร็จลุลวงไป
3 อุปกรณ์ เครื่องใช้เกี่ยวกับการเรียนต่างๆสูญหายบ่อยๆ
4 ไม่สนใจสิ่งเร้าสำคัญ แต่ไม่สนใจสิ่งเร้าที่ไม่สำคัญ
5 ขาดสมาธิ หรือความตั้งใจในการทำกิจกรรมที่มีรายละเอียดปลีกย่อย หรือเรียนวิชาที่น่าเบื่อหน่ายใช้เวลานาน
6 ขาดการวางแผนจัดการที่ดี (Disorganized)
7 มีความลำบากในการทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมองเป็นเวลานานๆ(Iong mental effort)
8 มักขี้ลืม ทำของหายเป็นประจำ หรือลืมนัด
9 ถูกรบกวนจากสิ่งเร้าต่างๆง่ายมาก วอกแวกง่าย เหม่อลอยหรือช่างฝัน
1. แยกความแตกต่างของขนาดและรูปทรงไม่ได้เด็กออทิสติก
2. จำตัวเลขไม่ได้
3. นับเลขไม่ได้
4. ใช้เครื่องหมาย บวก ลบ คูณ หาร ไม่ได้เมื่อเรียนแล้ว
5. คำนวณผิด แม้จะใช้เครื่องหมายถูก
6. มีปัญหาในการเรียนคณิตศาสตร์
7. เข้าใจคำศัพท์น้อยมาก
8. ปฏิบัติตามคำสั่งไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจคำสั่ง
9. ไม่ตั้งใจฟังครู
10. จำสิ่งที่ครูพูดให้ฟังไม่ได้
11. เล่าเรื่อง / ลำดับเหตุการณ์ไม่ได้
12. มีปัญหาด้านการอ่านเช่นอ่านข้ามบรรทัดอ่านไม่ออกอ่านไม่ชัดไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่อ่าน
13. มีปัญหาทางด้านการเขียน เช่น เขัยนหนังสือไม่เป็นตัว จำตัวอักษรไม่ได้ สะกดคำไม่ได้ เขียนบรรยายภาพไม่ได้เลย
14. สับสนเรื่องราว
15. กะขนาดไมได้
16. ไม่เข้าใจเกี่ยวกับระยะทาง
17. เรียงลำดับมากน้อยไม่ได้
18. เรียงลำดับเหตุการณ์ไม่ได้
19. สับสนเรื่องซ้าย - ขวา หรือบน- ล่าง
20. มองเห็นภาพแต่บอกความแตกต่างของภาพไม่ได้
21. จำสิ่งที่เห็นไม่ได้
22. จำสิ่งที่ได้ยินไม่ได้ และแยกเสียงไม่ได้
23. เคลื่อนไหวช้าผิดปกติ
24. เดินงุมง่าม
25. หกล้มบ่อย
26. กระโดดสองเท้าพร้อมกันไม่ได้
27. มีปัญหามในการทรงตัวขณะเดิน
28. หยิบจับสิ่งของไม่ค่อยได้จึงทำของหลุดมือบ่อย ซุ่มซ่าม
29.เคลื่อนไหวเร็วอยุ่ตลอดเวลา
30. อยู่นิ่งเฉยไม่ได้
31. รับลูกบอลไม่ได้
32. ติดกระดุมไม่ได้
33. เอาแต่ใจตนเองไม่ฟังความเห็นของเพื่อน
34. เพื่อนไม่ชอบ ไม่อยากให้เข้ากลุ่มด้วย
35. ช่วงความสนใจสั้นมาก
36. แต่งตัวไม่เรียบร้อยเป็นประจำ
37. ทำงานสกปรกไม่เป็นระเบียบ
38. ชอบหลบหน้าไม่ค่อยมีเพื่อน
39. หวงของ ไม่แบ่งปัน
40. ขาดความรับผิดชอบ เลี่ยงงาน
41. มักทำงานที่ได้รับมอบหมายไม่สำเร็จ
42. ส่งงานไม่ตรงเวลา
1. อยู่ในดลกของตัวเอง คือไม่สนใจต่อความรู้สึก ของคนอื่นเด็กพิการซ้อน
2. ไม่สนใจที่จะเข้าไปหาใครเพื่อให้ปลอบใจ
3. ไม่เข้าไปเล่นกับกลุ่มเพื่อนๆ
4. ไม่ยอมพูด ส่วนการเล่นเสียงจะไม่มีแบบแผนแน่นอน อาจแตกต่างกันไปในแต่ละวัน
5. เคลื่อนไหวแบบซ้ำๆซากๆ
6. ยึดติดวัตถุ สิ่งของอย่างใดอย่างหนึ่งมักถือเดินไปเรื่อยๆ
7. ต่อต้าน หรือแสดงกิริยาอารมณ์ รุนแรง และไร้เหตุผล
8. มีท่าทางเหมือนคนหูหนวก
9. ท่าทางไม่รู้สึกรับรู้ต่อสิ่งเร้ามี่มากระตุ้น
10. ใช้วิธีการสัมผัส และเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยวิธีการที่ต่างจากคนทั่วไป เช่น ใช้วิธีการดม การชิม เป็นต้น